พระเกียรติคุณ ร.๒

ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสวยราชสมบัติอยู่เป็นเวลา ยาวนานถึง ๑๖ ปีนั้น ได้ทรงสร้างสรรค์ ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชาติบ้านเมืองเป็นอเนกประการ ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า ประเทศไทยเรานี้ตลอดรัชสมัยของพระองค์ บ้านเมืองอุดมสมบูรณ์ร่มเย็นเป็นสุข ในด้านต่างประเทศ ทรงรับเป็นไมตรีกับพม่า ขณะเดียวกันก็โปรดให้สร้างเมืองและป้อม ณ ที่อันเหมาะสมเพื่อป้องกันพระนคร เช่น สร้างป้อมที่นครเขื่อนขัณฑ์ อันเป็นเมืองด่านสำหรับป้องกันศึกศัตรู

ในด้านศิลปะวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชาติ พระองค์ก็ได้ทรงส่งเสริมทะนุบำรุง วรรณคดี กวีนิพนธ์ นาฏศิลปดนตรี งานช่างประติมากรรมจิตรกรรม และสถาปัตยกรรมไทย โดยเฉพาะในด้านวรรณคดีนั้น อาจกล่าวได้ว่ารัชกาลของพระองค์ เป็นยุคทองของวรรณคดีไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เช่นเดียวกับที่ รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นยุคทองของวรรณคดีไทย สมัยกรุงศรีอยุธยา ทั้งนี้เพราะพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเองทรงเป็นกวี ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทกวีนิพนธตกทอดเป็นวรรณคดีมรดกของชาติ ซึ่งอนุชนรุ่นหลังได้ใช้ศึกษาหาความบันเทิงและเล่าเรียนเพิ่มพูนความรู้ ตลอดจนเป็นแบบฉบับงานกวีนิพนธ์อันสมบูรณ์เป็นจำนวนมาก เป็นที่เชิดหน้าชูตาชาวไทย และปรากฏเป็นเกียรติแพร่หลายไปในนานาประเทศ

พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แบ่งเป็นพระราชนิพนธ์ที่เป็นกลอนบทละครใน ได้แก่ อิเหนา และรามเกียรติ์ บทละครนอก ๕ เรื่อง คือ ไกรทอง คาวี ไชยเชษฐ์ สังข์ทอง และมณีพิชัย พระราชนิพนธ์ที่เป็นกลอนเสภา ได้แก่ เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน พระราชนิพนธ์ที่เป็นกาพย์ ได้แก่ กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน และบทพากย์โขน ๔ บท คือ นางลอย นาคบาศ พรหมาสตร์

บทละครที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระราชนิพนธ์นั้น เป็นบทที่ใช้เล่นละครโดยเฉพาะ มีบทร้องสอดคล้องกับท่ารำและดนตรีเหมาะสมกับการแสดง ในแง่วรรณศิลป์ก็งดงามพร้อมมูล ลักษณะกลอนไพเราะเพราะพริ้ง บทชมธรรมชาติและชมบ้านเมือง ชมความงามของสิ่งต่างๆ ในเรื่องไว้อย่างงดงามประณีต บรรจงโดยตลอด บางบทสะเทือนอารมณ์ มีทั้งบทรัก บทโศก รำพึงรำพัน พูดตัดพ้อต่อว่า เกี้ยวพาราสี มีโวหารเปรียบเทียบอุปมาอุปไมยเพื่อให้เห็นภาพเด่นชัดขึ้น ทรงใช้คำที่ง่ายแต่มีค่าของเสียงและค่าของความหมายเหมาะสม ขั้นตอนในกระบวนวรรณดี การเขียนกลอนในลักษณะเช่นนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธ เลิศหล้านภาลัยเท่านั้น

ด้านศิลปกรรม พระองค์ทรงมีพระปรีชาญาณถึงขั้นปฏิบัติและสร้างสรรค์ด้วยพระองค์เองได้อย่าง ยอดเยี่ยม ทรงแกะสลักบานประตูบาทกลางพระวิหารวัดสุทัศนเทพวราราม เป็นลาย สลักซับซ้อนกันหลายชั้นงามวิจิตรน่าพิศวงอย่างยิ่ง ทรงสร้างวัดอรุณราชวราราม ทรงปั้นหุ่นพระพักตร์พระพุทธรูปพระประธานด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง สร้างพระปรางควัดอรุณราชวราราม ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ชาวไทย ภาคภูมิใจ เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational Scientific and Cultural Organization) หรือ UNESCO ได้ประจักษ์ในพระปรีชาสามารถ จึงถวายพระเกียรติคุณยกย่องให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก และได้ส่งเสริมให้มีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติในอภิลักขิต สมัยครบรอบ ๒๐๐ ปีแห่งพระบรมราชสมภพ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ ด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง